องค์การอนามัยโลก(WHO) และสมาคมเบาหวานระหว่างประเทศ (IDF) คาดการณ์ว่าโรคเบาหวานจะเพิ่มขึ้นจาก 177 ล้านคนในปี 2543 เป็น 300 ล้านคน ในปี 2568 สำหรับประเทศไทยอัตราความชุกของโรคเบาหวานในประชากรไทยตั้งแต่อายุ 35 ปีขึ้นไปเพิ่มขี้นอย่างต่อเนื่องจาก 2.3% (ปี 2532) เป็น 9.6% (ปี 2543) นอกจากนี้ยังพบว่าร้อยละ 30-50 ของประชากรที่เป็นโรคเบาหวานยังไม่ได้รับการวินิจฉัย
หลักการดูแลตัวเองสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
โรคเบาหวานเป็นโรคที่ร่างกายไม่สามารถใช้น้ำตาลให้เป็นพลังงานได้อย่างเต็มที่ ทำให้มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงอยู่เป็นเวลานานจนเกิดภาวะแทรกซ้อน เมื่อตรวจพบว่า ตัวเองเป็นโรคเบาหวาน ควรดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อนอาจอื่นๆ ที่อาจตามมาได้อีก เช่น โรคความดันโลหิตสูง และโรคไขมันในเลือดสูง
การรักษาแบบครบวงจรของโรคเบาหวาน ประกอบด้วย การควบคุมอาหารอย่างเหมาะสม การออกกำลังกายเพื่อควบคุมน้ำหนัก และการใช้ยาลดน้ำตาลในเลือด ซึ่งต้องกระทำอย่างเป็นประจำสม่ำเสมอ
- การควบคุมอาหาร การเลือกรับประทานอาหารอย่างถูกต้องเพื่อสุขภาพ เป็นสิ่งที่สำคัญในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวาน เมื่อควบคุมระดับน้ำตาลได้ดีโรคแทรกซ้อนก็จะลดลงด้วย
หลักการง่ายๆ ในการควบคุมอาหาร
- รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
- รับประทานข้าวเป็นหลัก สลับกับอาหารพวกแป้งเป็นบางมื้อ
- รับประทานพืชผักให้มาก และรับประทานผลไม้เป็นประจำ เพราะให้สารต้านอนุมูลอิสระสูง
- รับประทานเนื้อปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ไข่ และถั่วเมล็ดเป็นประจำ
- ดื่มนมให้พอเหมาะกับวัย
- หลีกเลี่ยงอาหาร หวาน มัน และเค็ม
- รับประทานอาหาร 3 มื้อ และอาหารว่างหนึ่งมื้อ และรับประทานอาหารให้เป็นเวลา ห้ามงดอาหาร
- รับประทานไขมันให้น้อย เลือกเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน หลีกเลี่ยงการทอดใช้การย่าง อบ ต้ม หรือเผาแทนการทอด
- รับประทานน้ำตาลให้น้อยลง ก่อนรับประทานอาหารให้อ่านฉลากอาหาร หลีกเลี่ยงน้ำอัดลมที่ใส่น้ำตาล หลีกเลี่ยงคุกกี้ เค้ก ลูกอม
- หลีกเลี่ยงอาหารเค็ม โดยการเติมเกลือให้น้อย หลีกเลี่ยงอาหารกระป่อง ให้ชิมรสอาหารก่อนปรุง
- หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์
- การออกกำลังกาย การออกกำลังกายจะทำให้การควบคุมเบาหวานง่ายขึ้น และทำให้น้ำหนักลดแต่ต้องระวังโรคแทรกซ้อน เช่น น้ำตาลต่ำ
- การเลือกวิธีออกกำลังกายจะขึ้นกับสุขภาพของแต่ละคน คนที่ไม่เคยออกกำลังกายให้เริ่มทีละน้อย โดยเริ่มจากกิจวัตรประจำวัน เช่น การเดินไปทำงาน การใช้บันไดแทนบันไดเลื่อน หรือการทำสวน เมื่อท่านแข็งแรงขึ้น ท่านสามารถออกกำลังกายโดยการวิ่ง
- เลือกกิจกรรมที่ท่านมีความสุข เช่นเต้นรำ และควรออกกำลังกายร่วมกับครอบครัว
- การรักษาด้วยยา มุ่งเน้นเพื่อลดระดับน้ำตาลในเลือดให้ใกล้เคียงปกติ และป้องกันโรคแทรกซ้อนในระยะยาว ปัจจุบันการรักษาด้วยยาได้รับความนิยมในการรักษาโรคเบาหวานเนื่องจาก มีหลักฐานยืนยันว่าการควบคุมเบาหวานที่ดี สามารถลดโรคแทรกซ้อนที่เกิดจากเบาหวาน แต่อย่างไรก็ตามก่อนให้ยาลดระดับน้ำตาล ควรควบคุมอาหาร และออกกำลังกายอย่างเต็มที่เสียก่อน
- วิตามินและเกลือแร่ ปัจจุบันพบว่าวิตามินและเกลือแร่ หลายชนิดมีส่วนช่วยในการดูแลผู้ป่วยเบาหวานได้ เช่น
- วิตามินบี ปริมาณสูง ช่วยบำรุงระบบประสาท และลดอากาชาปลายมือปลายเท้า ของผู้ป่วยเบาหวานได้
- อัลฟาไลโปอิกแอซิด และวิตามินอี ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่จะช่วยป้องกันโรคภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวานได้
- โครเมียม และ สังกะสี พบว่า มีส่วนช่วยในการนำน้ำตาลไปเผาผลาญเป็นพลังงานได้มากขึ้น จึงมีส่วนช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้
โรคเบาหวาน ไม่ได้หวานอย่างที่คิด เมื่อพบว่าตัวเองเป็นเบาหวาน ต้องรีบควบคุมและรักษาแบบครบวงจร ไม่เช่นนั้นอาจนำไปสู่โรคแทรกซ้อนที่รุนแรงอีกมากมาย
ขอบคุณข้อมูลจาก :
www.siamhealth.net
www.megawecare.co.th