ตกขาว ของคู่กายผู้หญิง
ตกขาวเป็นสิ่งที่ถูกขับออกมาจากช่องคลอด และสิ่งนั้น ไม่ใช่เลือด ดังนั้นตกขาวจึงมีสีอะไรก็ได้ ตามภาวะที่เกิดขึ้นช่วงนั้น เพียงแต่ส่วนใหญ่จะมีสีขาว แต่บางครั้งอาจมีอาการผิดปรกติเกิดขึ้นได้
ดังนั้นเรามาดูความแตกต่างของตกขาวปรกติ กับตกขาวที่ไม่ปรกติกันค่ะ
ตกขาวปรกติ เป็นตกขาวที่พบได้ในภาวะปรกติ ตกขาวแบบนี้มีสีขาว คล้ายแป้งเปียก มีปริมาณไม่มาก ไม่คัน กลิ่นออกเปรี้ยวเล็กน้อย ไม่เหม็น อย่างไรก็ตามในบางช่วงอาจมีปริมาณมากขึ้นเล็กน้อย เช่น ช่วงก่อนมีรอบเดือน หลังมีรอบเดือน ช่วงไข่ตก หรือในช่วงตั้งครรภ์ ตกขาวเป็นสารที่ถูกขับออกมาจากช่องคลอด ส่วนสิ่งที่ถูกขับออกมานั้นมาจากต่อมต่างๆ ในระบบสืบพันธุ์ ซึ่งได้แก่
-
- น้ำที่หลั่งจากต่อมใต้ผิวหนัง บริเวณช่องคลอด เพื่อหล่อลื่นปากช่องคลอด
- เซลล์เยื่อบุผนังช่องคลอดที่หลุดลอกออกมา
- มูกจากต่อมที่ปากมดลูก
- โปรตีน เกลือแร่ ที่มาจากผนังช่องคลอด เยื่อบุโพรงมดลูก และหลอดมดลูก
- กรดแลคติคซึ่งแบคทีเรียในช่องคลอดสร้างจากไกลโคเจน ของเยื่อบุผนังช่องคลอด
ตกขาวที่ไม่ปรกติ
คือตกขาวที่มีปริมาณมาก มีกลิ่นเหม็น ลักษณะอาจเป็นหนอง มูกปนหนอง ปนเลือด มีฟอง และมักมีอาการอื่นๆ ประกอบด้วย เช่น คัน แสบร้อนบริเวณปากช่องคลอด หรือปวดท้องน้อยร่วมด้วยก็ได้ ส่วนสาเหตุที่ทำให้ตกขาวผิดปรกติ ที่พบบ่อย 3 อันดับแรก คือ
-
- จากเชื้อแบคทีเรีย พบได้ร้อยละ 30-35
- จากเชื้อรา ยีส พบได้ร้อยละ 20-25
- จากเชื้อพยาธิ พบได้ร้อยละ 10
ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยที่พบเชื้อสองชนิดหรือมากกว่าสองชนิดอยู่ร้อยละ 15-20 ส่วนสาเหตุของอาการตกขาวที่ไม่ปรกติ ยังสามารถแบ่งตามตำแหน่งที่เกิด คือ
-
- ช่องคลอดอักเสบ ซึ่งมาจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อพยาธิ เชื้อรา เชื้อไวรัส เช่นโรคเริม เชื้อแบคทีเรียอื่นๆ
- ปากมดลูกอักเสบ เกิดจากการติดเชื้อหนองใน เชื้อคลามิเดีย เชื้อเริม
- ปากมดลูกมีแผล เป็นเนื้องอก
- สิ่งแปลกปลอมในช่องคลอด เช่น เศษกระดาษทิชชู สำลี ผ้าก๊อซ เมล็ดผลไม้ ถุงยางอนามัย ฯลฯ
- เนื้องอกและมะเร็งมดลูก ขาดฮอร์โมน ทำให้เกิดช่องคลอดแห้งอักเสบ มีตกขาวได้
ส่วนการป้องกันอาการตกขาว เราคงต้องรู้จักดูแลตัวเองด้วยการไม่สวมใส่กางเกงในที่อับชื้น หลังจากปัสสาวะทุกครั้งควรล้างทำความสะอาดจากข้างหน้าไปข้างหลัง ไม่ควรสวนล้างช่องคลอดด้วยผลิตภัณฑ์ใดๆ ทั้งสิ้น และควรระมัดระวังเวลาใช้ผ้าอนามัยชนิดสอดค่ะ
สุดท้ายหากมีตกขาวแบบที่ไม่ปรกติ ไม่ควรซื้อยามากินเอง แต่ควรรีบไปหาหมอจะดีกว่า เพื่อจะได้รักษาตรงตามสาเหตุเลยค่ะ