มีผู้หญิงไม่น้อยที่เปลี่ยนชนิดและยี่ห้อผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเป็นว่าเล่น เพื่อค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ผิวสวย รวมถึงยังใช้เงินก้อนใหญ่และอุทิศเวลาไปกับกิจกรรมที่ทำให้ผิวอ่อนเยาว์ และ สวยงาม แต่ก็มีคนจำนวนมากที่รู้เคล็ดลับที่ทำให้ผิวสวยโดยไม่ต้องใช้เงินหรือทำอะไรมาก
จริงๆ แล้วการทำให้ผิวสวยไม่ได้เป็นความลับอะไร เพราะมันอยู่ในบทเรียนที่เราเรียนเมื่อสมัยอยู่โรงเรียนที่ว่า “สารอาหารที่ทำให้ผิวอ่อนเยาว์มาจากอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ หรือที่เรียกว่า glow food โดย glow food ที่ทำให้ผิวกระจ่างใสก็คือ ผลไม้ อาทิ ผลไม้ตระกูลส้ม หรือแอปเปิล ผัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผักใบเขียว และมะเขือเทศ เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์นม ไม่ว่าจะเป็น นม ชีส ไข่ และโปรตีนจากเนื้อสัตว์
นอกจากนี้ยังมีวิตามินและแร่ธาตุชนิดอื่นอีกหลายชนิดที่เป็นที่ต้องการของผิว ตั้งแต่วิตามินที่ละลาย ได้ในไขมัน อย่างวิตามินเอ อี และเค รวมถึงวิตามินบี และซี โฟลิกแอซิด ไบโอติน ซีรีเนียม และเหล็ก แม้แต่กรดไขมันจำเป็นก็มีความสำคัญกับผิวที่มีสุขภาพดี ซึ่งหากว่าเราขาดวิตามินและเกลือแร่เหล่านี้ ก็จะส่งผลต่อผิวหนัง เส้นผม และเล็บ เช่น ผิวหยาบ ไม่สม่ำเสมอ กระดำกระด่าง เป็นรอยฟกช้ำ เส้นผมกระด้าง เล็บขรุขระ เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าวเราจึงควรใส่ใจในการบริโภคอาหารที่มีวิตามินและ เกลือแร่เหล่านี้
วิตามินเอ ช่วยรักษาและซ่อมแซมเนื้อเยื่อของผิวหนัง และอาจจะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคสะเก็ดเงิน โดยอาหารที่อุดมด้วยวิตามินเอก็คือ มันเทศ แครอท มะม่วง ผักโขม นม ไข่แดง และชีส
วิตามินบีคอมเพล็กซ์ วิตามินบี1 ช่วยบำรุง cardiovascular ซึ่งช่วยให้โลหิตไหลเวียนได้ดีขึ้น ซึ่งส่งผลให้ผิวมีสุขภาพดีและเปล่งปลั่ง ขณะที่วิตามินบี3 และบี5 ทำให้ผิวชุ่มชื้น สำหรับอาหารที่อุดมด้วยวิตามินบี คือ ผักใบเขียว พืชจำพวกถั่วและเมล็ดถั่วต่างๆ เนื้อสัตว์ ปลา ผลิตภัณฑ์จากนม ธัญพืชเสริมอาหาร เป็นต้น
วิตามินซีและอี ช่วยลดริ้วรอยและอาการผิวแก่กว่าวัย ที่มีต้นเหตุจากอนุมูลอิสระ แหล่งของวิตามินซีก็อย่างเช่น พืชตระกูลส้ม ฝรั่ง ผักใบเขียว บรอคโคลี กระหล่ำดอก พริกหวาน ส่วนแหล่งของวิตามินอี คือ น้ำมันพืช ถั่ว เมล็ดพืช มะกอก อะโวคาโด เป็นต้น
วิตามินเค ช่วยลดรอยฟกช้ำ และต่อสู้กับริ้วรอย รวมถึงรักษาความยืดหยุ่นของผิว ยาทาภายนอกที่มีส่วนผสมของวิตามินเคมีประสิทธิภาพในการลดรอยดำรอบดวงตา แหล่งที่มาของวิตามินเคคือ ผักใบเขียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรอคโคลีและผักโขม
โฟลิกเอซิด หรือวิตามินบี9 ช่วยทำให้เซลล์มีความแข็งแรงและสร้างขึ้นมาใหม่ (replication) และทำให้ผมหงอกช้าลง แหล่งโฟลิกเอซิดคือ ผักใบเขียว พืชตระกูลถั่ว จมูกข้าวสาลี
ไบโอติน ป้องกันผิวหนังอักเสบ ป้องกันผมร่วง โดยมีมากในกล้วย ไข่ โอตมีล ข้าว
ซีลีเนียม ช่วยลดการอักเสบของผิวหนังที่ไหม้จากการโดนแดดแรงๆ แหล่งที่มาของซีรีเนียม คือ ธัญพืชไม่ขัดสี อาหารทะเล กระเทียม ไข่
ทองแดง หากได้รับพร้อมกับวิตามินซีและธาตุสังกะสีจะช่วยสร้างอิลาสติน ซึ่งเป็นไฟเบอร์ที่ช่วยพยุงโครงสร้างของผิวหนัง
ทองแดงมีมากในตับ อาหารทะเล พืชตระกูลถั่ว เมล็ดถั่วชนิดต่างๆ และธัญพืชไม่ขัดสี
ธาตุสังกะสี ลดการผลิตน้ำมันและลดการก่อตัวของสิว ธาตุสังกะสีมีมากในหอยนางรม เนื้อไม่ติดมัน ไก่
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ
ไม่เหมือนกับการใช้ครีม โลชัน หรือยา ที่คุณต้องทาหรือกินในขนาดและเวลาที่กำหนดไว้ เพราะการกินอาหารให้ถูกต้องไม่ได้มีกฎเกณฑ์ที่ตายตัว ตราบเท่าที่คุณไม่ได้กินอาหารหมู่ใดหมู่หนึ่งเพียงอย่างเดียว โดยไม่กินอาหารอย่างอื่นเลย ซึ่งจะทำให้คุณขาดสารอาหารอย่างอื่นไป ซึ่งจะทำให้คุณเป็นโรคจากภาวะขาดสารอาหาร รวมถึงอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับผิวหนังด้วย
อีกประเด็นที่สำคัญคือ ควรดื่มแอลกอฮอล์ให้น้อยที่สุด เพราะนอกจากจะเป็นสาเหตุของโรคต่างๆ แล้ว แอลกอฮอล์ยังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผิวหนังดูแก่กว่าวัย
ถ้าอยากได้รับสารอาหารแบบเดียวกับที่มีอยู่ในยาภายนอกด้วยการรับประทาน ก็สามารถทำได้ และมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกัน ถ้าไม่มากเกินไป เช่น คุณไม่ควรกินฟักทองเพื่อจะได้รับวิตามินเอมากๆ เพราะอาจจะทำให้ผิวของคุณเหลือง ซึ่งคุณคงไม่ต้องการ ในกรณีนี้ก็อาจจะใช้วิตามินเอสกัดแทนได้บ้าง
แต่ก่อนที่ทุกคนจะวิ่งไปซื้อวิตามินเสริมมาตุนไว้ คงต้องบอกว่าสารอาหารอาจจะทำให้ผิวสวยได้ก็จริง แต่ในระดับหนึ่งเท่านั้น เพราะการจะทำให้ผิวสวยและดูอ่อนเยาว์จะต้องประกอบไปด้วยปัจจัยอื่นๆ รวมถึงการเข้านอนแต่หัวค่ำ หลีกเลี่ยงความเครียด การออกกำลังกาย และการได้รับวิตามินที่หลากหลาย
แหล่งข้อมูล :นิตยสาร HealthToday